“ต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ กระทำการปลดหนี้ของสโมสรปริมาณ 194 ล้านปอนด์ (โดยประมาณ 7,800 ล้านบาท) เป็นที่เรียบร้อย
วันที่ 2 ก.พ. 65 “จิ้งจอสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกแถลงการณ์ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้ปลดหนี้ของสโมสรปริมาณ 194 ล้านปอนด์ หรือโดยประมาณ 7,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่กู้ยืมเงินมาจากบริษัทแม่อย่าง คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล (เคพีไอ) เป็นที่เรียบร้อย
เงินกู้ยืมที่เกี่ยวเนื่องและดอกเบี้ย ปริมาณ 194 ล้านปอนด์ (ราว 7,800 ล้านบาท) ได้ถูกแปลงให้เป็นทุนกลับมาที่บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (KPI) ซึ่งครอบครัวศรีวัฒนประภา เป็นเจ้าของโดยตรง สำหรับเงินลงทุนดังกล่าว ทางบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ให้สโมสรยืม เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการก่อสร้างสนามฝึกซ้อมสุดยอดแห่งใหม่ที่ซีเกรฟ ในตอน 4 ปีที่ผ่านมา และยังคงส่งเสริมการลงทุนของสโมสรในด้านต่างๆ รวมทั้งทีมฟุตบอลหญิง ในช่วงการระบาดของเชื้อ โควิด – 19
การแปลงหนี้สินเป็นทุนครั้งนี้ ช่วยทำให้สโมสรมีงบดุลการคลังที่เข้มแข็ง และช่วยลดภาระดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งสะท้อนถึงการแสดงเจตนารมณ์ความเอาจริงเอาจังของบริษัท คิง เพาเวอร์ สำหรับเพื่อการเกื้อหนุนสโมสรเลสเตอร์ อย่างยั่งยืนในระยะยาว
ตั้งแต่ปี 2010 ที่ครอบครัวศรีวัฒนประภา ได้เข้ามาเป็นผู้ครอบครอง และบริหารสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ แห่งนี้
นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มีการปฏิบัติงานแปลงหนี้สินให้เป็นทุน โดยหนแรกเกิดขึ้นในปี 2013 ทางสโมสรฯ ได้ทำงาน แปลงหนี้ ให้เป็นทุน ปริมาณ 103 ล้านปอนด์ ทั้งสองกรณีทำให้เกิดความแน่ใจ ให้กับผู้ถือหุ้นทั้งหมดของสโมสร
คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ บอกว่า “การรักษาความมั่นคงในระยะยาวของสโมสรมีความสำคัญต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหลักการขั้นพื้นฐานในการลงทุนในอนาคตของสโมสรมาโดยตลอด เราต้องแน่ใจว่าเส้นทางที่เราจะก้าวต่อไปอยู่บนพื้นฐานการเงินที่มั่นคงและปลอดภัยที่สุด”
“ผมเชื่อมั่นในเลสเตอร์ ซิตี้ และเชื่อในสิ่งที่สโมสรทำให้กับแฟนบอล และชาวเมืองเลสเตอร์รวมถึงแฟนบอลในประเทศไทยตลอดจนทั่วโลก ความศรัทธาที่ทุกคนมอบให้พวกเราในการบริหารสโมสร ด้วยความรับผิดชอบเป็นแนวทางในการตัดสินใจและยังเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สโมสรมีช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร”
ปี 2010 ครอบครัวศรีวัฒนประภา ได้ครอบครองเลสเตอร์ ซิตี้ และสโมสรก็กลายเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อย่างเร็ว ซึ่งนำมาซึ่งการทำให้สโมสรเติบโตจากทีม ในแชมเปี้ยนชิพจนถึงก้าวขึ้นสู่การแข่งขันในระดับ พรีเมียร์ ลีก ซึ่งครอบครัวศรีวัฒนประภา ได้ดูแล และสร้างความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2016, แชมป์เอฟเอ คัพ และ คอมมูนิตี้ชิลด์ ในปี 2021 และการเข้าไปชิงชัยในยุโรปถึง 3 รายการ
ศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ที่ล้ำยุคของสโมสรในซีเกรฟ ซึ่งตั้งอยู่ทางทางเหนือของเขตเลสเตอร์เชียร์ เปิดเข้าใช้งานตั้งแต่ธันวาคม 2020 โดยเป็นศูนย์ซ้อมที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกระดับนานาชาติ สำหรับทีมชายของ เลสเตอร์ และทีมเยาวชนอะคาเดมี่ที่อยู่ในตอนพัฒนาฝีเท้าของสโมสร ในปีเดียวกันเลสเตอร์ได้เปิดตัวทีมหญิง ซึ่งสามารถครอบครองแชมป์ และการเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในช่วงฤดูกาลแรก เมื่อทีมก้าวขึ้นสู่ฟุตบอลอาชีพ
ภายใต้การบริหารของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ สโมสรยังคงส่งเสริมและส่งเสริมกิจกรรมในชุมชนทั่วเลสเตอร์เชียร์ โดยการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อการบุญในปี 2012 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น มูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา ตามชื่ออดีตประธานสโมสรอันเป็นที่รักของเลสเตอร์ เพื่อสนับสนุนพัฒนาชุมชนของพวกเราในทุกด้าน
“อัยยวัฒน์” ประกาศปลดหนี้สินเลสเตอร์ 7 พันล้าน
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ออกมาประกาศข่าวดีให้แฟนคลับได้รับรู้ หลังสโมสรกระทำปลดหนี้สินปริมาณ 194 ล้านปอนด์เรียบร้อยแล้ว
หนี้ทั้งหมด 194 ล้านปอนด์ หรือราว 7.8 พันล้านบาท เป็นเงินที่กู้ยืมเงินจากบริษัท แม่อย่าง คิง พาวเวอร์ ซึ่งเป็นของเครือญาติ ศรีวัฒนประภา เพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดแจงต่างๆไม่ว่าจะเป็น การปรับแก้สนามฝึกซ้อม , การขยายสนามเหย้าอย่าง คิง พาวเวอร์ สเตเดียม รวมถึงการเสริมทัพนักเตะใหม่
ล่าสุดมีการยืนยันว่า คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ได้แปลงหนี้อาจจะค้าง รวมทั้งดอกของสโมสร ให้เป็นทุนคืนบริษัท คิง เพาเวอร์ ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย
โดยการแปลงหนี้เป็นทุนดังกล่าว ช่วยทำให้สโมสรมีงบดุลการเงิน ที่กล้าแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยนี่ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มีการทำงานแปลงหนี้ให้เป็นทุน โดยหนแรกเกิดขึ้นในปี 2013 ด้วยเงินปริมาณ 103 ล้านปอนด์ หรือราว 4.17 พันล้านบาท
โดย คุณอัยย์วัฒน์ กล่าวผ่านเว็บสโมสรว่า การรักษาความมั่นคงยั่งยืนในระยะยาว มีความหมายต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นหลักเบื้องต้น ที่แนะนำการลงทุนของสโมสรในอนาคตมาตลอด พวกเราจำต้องสร้างความเชื่อมั่นว่าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างดำเนินไปตามเส้นทางนั้น ด้วยฐานรากทางการเงิน ที่แข็งแกร่ง ปลอดภัยที่สุด
ตอนนี้ เลสเตอร์ อยู่อันดับ 14 ของตารางพรีเมียร์ลีก มี 18 แต้ม ยังต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากการตกชั้นในครึ่งฤดูหลัง โดยเกมต่อไปจะออกไปเยือน แอสตัน วิลล่า วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้